วันนี้เราจึงมีข้อแนะนำในการดูแลรักษากระเป๋าเบื้องต้น ข้อควรทำและข้อควรห้ามที่จะทำให้กระเป๋าใบโปรด มีอายุยืนยาวอยู่กับเราไปนาน ๆ จะมีวิธีจัดเก็บดูแลรักษาอย่างไรบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมกันค่ะ
1. Better Clean It Before Storing
สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลรักษากระเป๋านั่นก็คือ ความสะอาด ฉะนั้น ควรตรวจสอบตัวกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนทำการจัดเก็บ ซึ่งการทำความสะอาดพื้นผิวของกระเป๋านั้น จะใช้ผ้าทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทของหนัง กระเป๋าแบรนด์เนมแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นจะผลิตจากหนังหรือวัสดุที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้น การดูแลทำความสะอาดที่เหมาะสมจะแตกต่างกันออกไป ใช้วิธีเดียวกันไม่ได้ โดยแบ่งประเภทหนังออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้.
- กระเป๋าหนังแท้ : หนังแท้ มีปฏิกิริยาที่ไวต่อความชื้นและความร้อนเป็นอย่างมาก แนะนำให้ใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดหนังแท้โดยเฉพาะทำความสะอาดโดยทั่ว หลังจากนั้น ใช้ผ้าหมาด ๆ (Damp Clothes) เช็ดทำความสะอากอีกครั้งเพื่อเช็ดเอาสิ่งสกปรกออก วิธีการเหล่านี้ ควรทำทันทีหลังจากที่เลิกใช้กระเป๋า เพื่อป้องกันคราบติดแน่น และใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งที่สุด อีกทั้งยังสามารถใส่ถุงเก็บความชื้นเพื่อป้องกันรา ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของหนัง
- กระเป๋าหนังกลับ : ข้อควรระวังของหนังชนิดนี้คือ น้ำและรอยด่าง วิธีดูแลรักษาเช่นเดียวกันกับหนังแท้ และควรใช้น้ำยาเคลือบหนังลงบนกระเป๋าเพื่อป้องกันรอยที่อาจจะเกิดขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการกระทบโดยตรงของแสงแดดเช่นเดียวกัน
- กระเป๋าหนังเทียม : การดูแลรักษากระเป๋าหนังเทียม จะง่ายกว่ากระเป๋าหนังแท้ แต่ก็ไม่ควรให้ถูกน้ำ เวลาเจอคราบสกปรกให้ใช้ผ้าหมาดเช็ดให้สะอาด ก่อนนำไปตากแดดอ่อน ๆ (ไม่ควรตากเป็นเวลานาน เพื่อรักษาสภาพหนังกระเป๋าไว้) ไม่ควรใช้น้ำยาเคลือบหนังหรือน้ำยาทำความสะอาดหนังแท้กับกระเป๋าหนังเทียม
- กระเป๋าหนังแก้ว : วัสดุหนังประเภทนี้ จะมีข้อเสียคือการดูดติดสีอื่นได้ง่าย หากมีการวางใกล้กับวัสดุที่มีสีเข้มกว่า การเก็บรักษาควรแยกให้ห่างจากวัสดุอื่น ๆ การทำความสะอาด สามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ด หรือน้ำยาเช็ดกระจกตามด้วยทิชชูก็จะสามารถเช็ดคราบออกได้ง่าย สิ่งสำคัญที่สุดควรเช็ดให้แห้งที่สุดก่อนเก็บรักษา
ข้อควรระวัง :
- ไม่ควรทำความสะอาดกระเป๋าด้วยทิชชูเปียก น้ำส้มสายชู หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป ที่ไม่ใช่ใช้สำหรับทำความสะอาดกระเป๋าโดยเฉพาะ เพราะอาจมีส่วนผสมของสารเคมี ที่อาจไปทำปฏิกิริยากับวัสดุบนกระเป๋า ก่อห้เกิดความเสียหายกับตัวกระเป๋าได้
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ให้เหมาะกับวัสดุของกระเป๋า และควรเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับกระเป๋าแบรนด์เนม
- ระวัง/หลีกเลี่ยง การใช้ Hand cream (ครีมทามือ) หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไขมันอื่น ๆเมื่อต้องสัมผัสกระเป๋า เพราะคราบไขมัน จะทำปฏิกิริยากับวัสดุหนัง ก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวกระเป๋าได้ (ข้อแนะนำ : ควรหาผ้า มาพันหูกระเป๋า ช่วยป้องกันการสัมผัสโดยตรงได้)
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้สีซีดและหนังเกิดความเสียหาย
- ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีเข้ม เมื่อต้องสะพายกระเป๋าที่มีสีอ่อน เพราะอาจเกิดการดูดสีได้ ซึ่งสีจากเสื้อผ้านั้น เป็นสีที่ทำความสะอาดยากมากที่สุด
- ไม่ควรเก็บกระเป๋าไว้ในรถยนต์ เพราะอากาศที่อบอ้าว และร้อนชื้น เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป จะทำปฏิกิริยากับตัวกระเป๋า ทำให้สีเฟด และตัวหนังแข็งกระด้าง
2. Stuff Your Bag and Purse to Maintain the Shape
หลังการทำความสะอาด สิ่งสำคัญที่มีส่วนทำให้รูปร่างกระเป๋ายังอยู่เป็นทรงสวยงาม ไม่ย้วยหรือพับ นั่นก็คือ วัสดุดันทรงด้านใน ซึ่งอาจจะเป็นม้วนกระดาษตามขนาดของกระเป๋าหรือจะเป็นขดผ้า เพื่อรักษารูปทรงของกระเป๋าไม่ให้เสียรูปทรง จนเกิดรอยพับและรอยยับ จนส่งผลเสียให้กับวัสดุหนังของกระเป๋า อีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ ช่องเก็บของ หรือ Organizer ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาทรงให้กับกระเป๋าแล้ว ยังเป็นตัวช่วยให้เราจัดเก็บสิ่งของในกระเป๋าได้อย่างเป็นระเบียบอีกด้วย
Tips : กระดาษหรือผ้าที่เลือกใช้สำหรับเป็นวัสดุดันทรงกระเป๋านั้น ควรเลือกแบบที่ไม่มีสีสันและเนื้อไม่หยาบจนเกินไป เพื่อป้องกันการดูดสี หรือริ้วรอยที่อาจเกิดจากการเสียดสี ระหว่างใช้งาน
3. Don’t Even Hang IT
ควรหลีกเลี่ยงการแขวนกระเป๋าแบรนด์เนม เพราะนั่นเป็นเหตุผลที่อาจทำให้ตัวกระเป๋าสูญเสียรูปทรง อีกทั้งยังอาจสร้างความเสียหายให้กับวัสดุหนัง หากเป็นกระเป๋าที่มีสายสะพาย แนะนำให้ม้วนสายสะพายเก็บรักษาไว้ในกระเป๋า ไม่ควรแยกชิ้นส่วน เพื่อง่ายต่อการหยิบมาใช้งานในครั้งต่อไป การเก็บรักษากระเป๋า แนะนำให้วางไว้ในตู้ หรือชั้น โดยสามารถวางไว้ในกล่อง (แยกไว้เป็นใบ ๆ) หรือแม้กระทั่งเก็บไว้ในถุงกันฝุ่น (Dust Bag)
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรเก็บไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่กระทบกับแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิที่สูงจนเกินไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวกระเป๋าได้ และควรวางกระเป๋าแต่ละใบ โดยมีการเว้นระยะให้ห่างออกจากกัน อาจมีชั้นวางกั้นก็ช่วยให้กระเป๋ามีช่องว่างและระยะห่างที่ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมถึงป้องกันสีกระเป๋าตกใส่กันได้อีกด้วย
Tips : ตู้หรือห้องสำหรับเก็บกระเป๋า ควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ 23-27 องศา หากเป็นไปได้ควรติดตั้งตัวดูดความชื้นภายในห้อง ด้วยเหตุว่า บางครั้งความเย็นของห้องเก็บกระเป๋า เมื่อนำกระเป๋าออกมากระทบกับความร้อนด้านนอก จะกลายเป็นความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราบนตัวกระเป๋าได้ รวมถึงการนำซองกันความชื้น หรือใบชาตากแห้ง ใส่ไว้ในกระเป๋า เพื่อช่วยในการดูดความชื้น ดูดซับ หรือลดกลิ่นได้
4. Don’t Throw Away Your Dust Bag and Box
สิ่งที่สำคัญอีกข้อที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือ การเก็บรักษาถุงกันฝุ่นและกล่องไว้ด้วยกัน เพราะเมื่อวันนึงหากคุณต้องการขายกระเป๋าใบโปรดแล้วละก็ ไอเท่มเหล่านี้ จะเป็นตัวเสริมที่นำมาพิจารณาต่อจากสภาพของกระเป๋า ในการประเมินราคาซื้อขายในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสอง
หลังการใช้งานกระเป๋าทุกครั้ง หากกระเป๋าไม่ได้เลอะมาก หลังทำความสะอาดเบื้องต้น อย่าเพิ่งนำเก็บในถุงกันฝุ่นในทันที ควรวางกระเป๋าไว้ด้านนอกสักระยะหนึ่ง ให้โดนอากาศเพื่อระบายความชื้น และหลังจากนำเข้าถุงผ้า ไม่ควรปิดปากถุงให้สนิท ควรเปิดช่องไว้เล็กน้อยเพื่อให้มีอากาศถ่ายเท อย่างน้อยทุกเดือน ควรนำกระเป๋าออกจากถุงผ้า เพื่อให้ตัวหนังได้สัมผัสกับอากาศ ป้องกันการเสื่อมสภาพและการกินตัวของหนังที่จะเกิดขึ้น
การดูแลรักษากระเป๋าแบรนด์เนมสุดรัก ให้ยังคงสวยงามเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและไม่ควรมองข้าม กระเป๋าแต่ละใบ ใช้วัสดุในการตัดเย็บที่แตกต่างกันออกไป จึงควรได้รับการดูแลรักษาให้เหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งาน รวมถึงเป็นการคงไว้หรือเพิ่มขึ้นของมูลค่าของกระเป๋าได้อีกด้วย และทั้งหมดนี้ คือ 4 วิธีง่าย ๆ ในการดูแลกระเป๋าสุดรัก ให้อยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน